ไทย เฮเปิดหัว อาเซียนคัพ ธีรศิลป์โขก เพิ่มสถิติอีก ทุบบรูไน ยึดจ่าฝูงกลุ่มเอ

“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา โขกหนึ่งตุง เพิ่มสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาล รายการ อาเซียนคัพ เป็น 20 ประตู พาทีมชาติไทย กระหน่ำ บรูไน ขาด 5-0 แชมป์เก่าเก็บสามแต้มประเดิม พร้อมยึดจ่าฝูง กลุ่ม เอ ในศึก อาเซียน คัพ 2022

ฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565

บรูไน 0-5 ทีมชาติไทย

ธีรศิลป์ แดงดา

การแข่งขันฟุตบอล อาเซียนคัพ 2022

ประจำวันอังคารที่ 20 ธ.ค.65 ที่สนามชีราส สเตเดี้ยม กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เวลาไทย 19.30 น.) เป็นเกมนัดเปิดสนาม รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ คู่ระหว่าง ทีมชาติบรูไน ทีมอันดับ 190 ของโลก เจอกับ ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 111 ของโลก

รายชื่อ ผู้ตัดสิน : เฉิน ซิน-ฉวน (ไต้หวัน), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : เฉิน เซียว-เอิน (ไต้หวัน), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : เหงียน จ่อง ห่าว (เวียดนาม), ผู้ตัดสินที่ 4 : โง ดุย ลัน (เวียดนาม)

เกมนี้ มาโน่ โพลกิ้ง ผู้จัดการทีมฟุตบอลกองทัพ “ช้างศึก” จัดชุดใหญ่เต็มอัตราศึก ลงสนาม ซึ่งเป็นชุดที่เพิ่งถล่มเอาชนะ เมียนมา 6-0 ในเกมอุ่นเครื่องที่ สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เริ่มเกมเพียงแค่นาทีเดียว ไทย เกือบได้ ประตูนำ อดิศักดิ์ ไกรษร หลุดเข้าไปในเขตโทษ ฝั่งซ้ายก่อนจะพยายามยิงเล่นทาง แต่ไปติดแนวรับบรูไน ช่วยเคลียบอลสกัดผ่านเสาสองออกหลังไปหวุดหวิด

นาที.4 ยังเป็นโอกาสของไทย อย่างสม่ำเสมอ ธีราทร บุญมาทัน บรรจงเปิดด้วยซ้าย จากริมเส้นฝั่งขวา อดิศักดิ์ ไกรษร ได้โหม่งเน้น ๆ แต่บอลดันไปเข้ามือ ไฮมี่ ไนยาริง ที่ล้มตัวตะปบเอาไว้ได้

มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา

นาที.19 ไทย ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน ยกบอลข้ามแนวรับบรูไนให้กับ ธีรศิลป์ แดงดา ปาดเข้ากลางก่อนจะเป็น บดินทร์ ผาลา วิ่งมาแปบอลส่งเข้าสู่ก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที.34 บดินทร์ ผาลา เกือบเบิ้ล เม็ดสองของตัวเองในเกมนี้ หลังได้บอลบริเวณ กรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนโยกหลบกองหลังบรูไน และหักเข้าขวายิงเท้าข้างถนัด แต่บอลดันโค้งไม่พอ ไฮมี่ ไนยาริง พุ่งรับเอาไว้ได้

ช่วงท้าย ครึ่งแรก นาที.44 ไทย หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลโค้ง ๆ จากฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นโขกเน้น ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป และก็เป็นลูกที่ 20 ของเขาตลอดการลงเล่นในรายการนี้อีกด้วย

เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที.61 ไทย แทบได้เม็ด 3 เมื่อธีราทร บุญมาทัน พาบอลตะลุย เลี้ยงขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเปิดบอลโค้ง ๆ เข้ามาในเขตโทษ ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นชนโหม่งคนเดียวโล่งเตียน ๆ แต่ดันโดนบางไปบอลถากเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที.64 “ช้างศึก” น่าได้ลูก 3 เมื่อ ธีราทร บุญมาทัน เปิดลูกเตะมุม ทางฝั่งขวาเข้ามาในเขตโทษ บอลเลยมาถึงแถวสองมาเข้าทาง พรรษา เหมวิบูลย์ ก้มโหม่งจ่อ ๆ แต่ดันไปตรงตัว ไฮมี่ ไนยาริง รับเอาไว้ได้

นาที.71 เอกนิษฐ์ ปัญญา เปิดบอลจากฝั่งขวา เข้าเขตโทษ แนวรับบรูไน เคลียสกัดไม่ดีบอลมาเข้าทางปืน ปรเมศย์ อาจวิไล พักบอลลงหนึ่งจังหวะ และก็ซัดเต็มข้อ บอลดันเฉียดฉิวเสาออกหลังไปนิดเดียว

นาที.88 ไทย ได้ประตูหนีเป็น 3-0 จากการทำเข้าประตูตนเองของ ยูรา ยูราโนส ก่อนที่ทีมชาติไทย จะมาได้ลูกจุดโทษ และเป็น พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ตัวสำรองยิงเข้าไปไม่หมาดให้ทีมหนี 4-0 รวมทั้งใน นาที.90+3 พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี จะมาเบิ้ลเม็ดสองของตนเองในเกมนี้ ยิงเพิ่มเป็น 5-0 กระทั่งจบเกม บรูไน เปิดบ้านแพ้ ไทย 0-5

สำหรับโปรแกรมถัดไป บรูไน จะลงเตะนัดที่ 2 บุกเยือน ฟิลิปปินส์ ในวันศุกร์ที่ 23 ธ.ค.65 ที่สนามริซาล เมโมเรียล สเตเดี้ยม เวลา 17.00 น. ส่วนกองทัพ “ช้างศึก” จะได้พัก 5 วันเต็ม ก่อนจะกลับ ไปเล่นในบ้านรับมือ ฟิลิปปินส์ ในวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.65 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม เวลา 19.30 น.

อาเซียนคัพ ไทย

รายชื่อ ผู้เล่นของทั้งสองทีม

  • ทีมชาติบรูไน 
  1. ไฮมี่ ไนยาริง (ผู้รักษาประตู)
  2. ไคริล ซูไฮมี
  3. อาลินูร์ จูฟรี
  4. ยูรา ยูโนส
  5. ฮาเคเม ซาอิด (อาดี้ ซาอิด แทน น.70)
  6. นูรอิควาน ออตมาน
  7. เฮนดรา ไอดริส (วาฟี้ อามีนูดดิน แทน น.63)
  8. ฮาซิค กาซีฟูล (อัซวาน ซาเลห์ แทน น.63)
  9. นาจิบ ทาริฟ
  10. ฮามิซาน ซูเลมาน (ฮานิฟ ฮาภรรยาร์ แทน น.23)
  11. ราซิมี รัมล์ลี (อาซีซี อาลี ราห์มาน แทน น.69)
  • ทีมชาติไทย 
  1. กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (ผู้รักษาประตู)
  2. พรรษา เหมวิบูลย์
  3. กฤษดา กาแมน
  4. ศุภนันท์ บุรีรัตน์
  5. ศศลักษณ์ ไหประโคน
  6. ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น (พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี แทน น.80)
  7. เอกนิษฐ์ ปัญญา (ชาญณรงค์ ประพรมศรีแก้ว แทน น.81)
  8. บดินทร์ ผาลา (เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ แทน น.72)
  9. อดิศักดิ์ ไกรษร (ปรเมศย์ อาจวิไล แทน น.46)
  10. ธีรศิลป์ แดงดา (สุมัญญา ปุริสาย แทน น.72)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ธีราทร บุญมาทัน (ทีมชาติไทย)